ณ เวลา 20.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ที่ 17,611.43 จุด เพิ่มขึ้น 60.54 จุด หรือ 0.34%
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 215,000 ราย
ADP ยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย.สู่ระดับ 229,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 237,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ คำกล่าวของนายเจโรม โพเวลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ว่า เฟดยังไม่ได้ตัดสินใจแน่นอนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ก็เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นเช่นกัน
นายเจโรมกล่าวว่า "ขณะนี้เฟดยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ โดยเรากำลังทำงานภายใต้กรอบแนวทางเดิม ซึ่งเรากำลังจับตาการปรับตัวดีขึ้นในตลาดแรงงาน และดูถึงความเชื่อมั่นที่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดกลับไปอยู่ที่ 2% ในระยะกลาง และผมจะให้ความสนใจอย่างมากต่อตัวเลขเศรษฐกิจตั้งแต่ตอนนี้จนถึงการประชุมครั้งถัดไป โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงาน"
คำกล่าวของนายโพเวลล์สวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. รวมทั้งความเห็นของนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
นายล็อคฮาร์ทกล่าวว่า เศรษฐกิจของสหรัฐมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ
นายล็อคฮาร์ท ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่มีสิทธิโหวตในปีนี้ กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐจะต้องย่ำแย่อย่างมากจึงจะทำให้เขาไม่ลงคะแนนเสียงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ หลังสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 20.13 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.22% แตะ 46.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
API เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 459.7 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล