ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,419.75 จุด ลดลง 120.72 จุด หรือ -0.69% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,056.44 จุด ลดลง 83.50 จุด หรือ-1.62% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,083.56 จุด ลดลง 16.28 จุด หรือ -0.78%
นักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มสื่อ หลังจากบริษัทสื่อรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ โดยหุ้นนิวยอร์ก ไทม์ส ร่วงลง 2.96% หุ้นทเวนตี้-เฟิร์สท์ เซนจูรี ฟ็อกซ์ อิงค์ ร่วงลง 6.4% หุ้นเวียคอม ดิ่งลง 6.5% หุ้นไทม์ วอร์เนอร์ ปรับตัวลง 0.8% หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ ปรับตัวลง 1.8% หลังจากบริษัทเหล่านี้เปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นอัลเลอร์แกน ร่วงลง 5.1% ขณะที่หุ้นแอมเจน อิงค์ หุ้นเซลจีน คอร์ป และหุ้นไบโอเจน อิงค์ ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 3.5%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง นำโดยหุ้นเทราดาต้า คอร์ป ดิ่งลง 16% หุ้นคอร์โว อิงค์ ปรับตัวลง 3.4% หุ้นสกายเวิร์ก โซลูชัน ปรับลง 3.5% และหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2%
หุ้นเทสลา มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ร่วงลง 8.88% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ในปี 2558
นักวิเคราะห์จากจีดับเบิลยูแอนด์เค อินเวสท์เมนท์ กล่าวว่า การร่วงลงของหุ้นกลุ่มสื่อได้ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มอื่นๆเป็นวงกว้าง ขณะที่บรรดากลุ่มเฮดจ์ฟันด์และผู้จัดการกองทุนต่างก็พยายามลดความเสี่ยง หลังจากหุ้นกลุ่มสื่อร่วงลงอย่างหนัก
นอกจากนี้ ผลกระทบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสื่อและกลุ่มอื่นๆนั้น ได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 1 ส.ค. เพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 270,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 21 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยลดลงจากระดับ 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี