ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 71.58 จุด หรือ 1.18% ที่ 6,146.10 จุด
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท ได้ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในช่วงครึ่งปีแรก โดยปรับเพิ่มขึ้นอีก 0.1% สำหรับไตรมาส 1 และไตรมาส 2 สู่ระดับ 0.5% และ 0.4% ตามลำดับ
การปรับตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีนี้มีการขยายตัวสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2554 และยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนสามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ในกรีซได้
ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ตัวเลขเกินดุลการค้าของเยอรมนีพุ่งแตะ 2.5 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
การเกินดุลการค้าดังกล่าวได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของยูโร ซึ่งช่วยหนุนการส่งออกนอกยูโรโซน โดยเฉพาะสหรัฐ
สำนักงานสถิติระบุว่า การส่งออกพุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. แตะ 1.034 แสนล้านยูโร ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.2% สู่ระดับ 8.06 หมื่นล้านยูโร
หุ้นทุกกลุ่มในตลาดหุ้นลอนดอนปิดแดนบวก ยกเว้น กลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นกลุ่มประกันภัย เหมืองแร่และโลหะอุตสาหกรรม ยานยนต์และชิ้นส่วนเป็นแกนนำหุ้นบวก
หุ้นเกลนคอร์ทะยาน 4.40% หุ้นอังโกล อเมริกัน พุ่ง 3.87% หุ้นอเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ บวก 3.02% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เพิ่มขึ้น 2.82% และหุ้นเฟรสนิลโลเพิ่มขึ้น 2.74%
หุ้นริโอ ทินโต บวก 2.6% หลังบริษัทประเมินอุปสงค์เหล็กกล้าและทองแดงจากจีนสดใส
หุ้นเรดโรว์ บริษัทรับสร้างบ้าน พุ่ง 1.9% หลังเผยกำไรพุ่ง 53% จากอานิสงส์นโยบาย Help to Buy ของรัฐบาลที่ให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ซื้อบ้านบางราย
ขณะที่บริษัทสร้างบ้านอีกรายอย่าง เบิร์กลีย์ ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 2.3% จากข่าวที่ว่าบริษัทมีแนวโน้มทำกำไรได้ตามเป้า
หุ้นวิทเบรดลดลง 1.4% ร่วงลงหนักสุดในตลาด หลังจากที่บริษัทได้ตัดลดต้นทุนและขึ้นราคา เพื่อนำเงินมาจ่ายพนักงานตามแผน Living Wage ของรัฐบาล