ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 76.83 จุด ก่อนประชุมเฟดสัปดาห์หน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 11, 2015 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) ขณะที่สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวแตกต่างกัน ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับขึ้น 76.83 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 16,330.40 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 10.25 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 1,952.29 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 39.72 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 4,796.25 จุด

ตลาดปิดในแดนบวกหลังจากมีการปรับตัวอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง และแทบไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้มากนัก

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 275,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 275,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 27 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกัน กระทรวงรายงานว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลง 1.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และได้รับผลกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่าและราคาน้ำมันที่ร่วงลง

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าทรุดตัวลง 11.4% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552

ส่วนดัชนีราคาส่งออกร่วงลง 1.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และทรุดตัวลง 7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2552

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟดในประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมช่วงสัปดาห์หน้า ได้ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในทิศทางที่ไม่สอดคล้องกันในประเด็นที่ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้หรือไม่

หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.2% เช่นเดียวกับกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่หุ้นแอปเปิลร่วงลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท ขณะที่หุ้นไบโอเจน อิงค์ ปรับขึ้นกว่า 3% และหุ้นไฟเซอร์ อิงค์ เพิ่มขึ้น 2.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ