ณ เวลา 22.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ที่ 16,081.39 จุด บวก 79.68 จุด หรือ 0.50%
หุ้นพลังงานดีดตัวตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ ขานรับสต็อกน้ำมันของสหรัฐที่ตึงตัว
ณ เวลา 22.08 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 2.05% สู่ระดับ 45.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 454 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 100,000 บาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 462,000 บาร์เรล สู่ระดับ 54 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเฟดจะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษก่อนสิ้นปีนี้
"ผมคาดหวังว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปของปีนี้" เขากล่าว และเสริมว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค. หรือธ.ค.
อย่างไรก็ดี นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดควรตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ระดับ 0% เป็นเวลานานกว่าที่วางแผนไว้ และให้ใช้ท่าทีอดทนเป็นอย่างมากก่อนที่จะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้ออาจจะไม่ดีดตัวขึ้นเร็วอย่างที่คาดการณ์ไว้
นายอีแวนส์เปิดเผยว่า หากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ก็จะสร้างความเสียหายหลายประการ ซึ่งรวมถึงชื่อเสียงของเฟด
นอกจากนี้ เขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังไม่ดีดตัวแตะระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด จนกว่าจะถึงปลายปี 2018
นายอีแวนส์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ขณะนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ จนกว่าจะถึงต้นปีหน้า