ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ที่ 17,076.67 จุด เพิ่มขึ้น 28.40 จุด หรือ 0.18%
ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. หลังจากที่ทะยานขึ้นกว่า 300 จุดในวันจันทร์ และดีดตัวขึ้นมากกว่า 100 จุดทั้งในวันพุธและพฤหัสบดี
รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า
ด้านนายนารายานา โคเชอร์ลาโคตา ประธานเฟดสาขามินนิอาโพลิส กล่าวว่า เฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปให้ต่ำกว่าระดับ 0-0.25% ในปัจจุบัน
เขาระบุว่า การที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำในขณะนี้ ทำให้เฟดมีโอกาสครั้งใหญ่ที่จะดำเนินการมากขึ้นเพื่อฟื้นฟูตลาดแรงงาน โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ไม่ใช่ปรับขึ้น
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0-0.25% นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2008 และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวนับตั้งแต่นั้นมาเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐหลีกเลี่ยงจากภาวะเงินฝืด
นายโคเชอร์ลาโคตามักมีจุดยืนคัดค้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดภายในปีนี้
เขากล่าวก่อนหน้านี้ว่า เมื่อพิจารณาถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปีนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากจะทำให้อัตราเงินเฟ้อใช้เวลานานขึ้นในการกลับขึ้นไปสู่ระดับเป้าหมายของเฟด