ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,779.52 จุด พุ่งขึ้น 198.09 จุด หรือ +1.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,095.69 จุด เพิ่มขึ้น 65.54 จุด หรือ +1.30% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,090.35 จุด เพิ่มขึ้น 24.46 จุด หรือ +1.18%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดพุ่งขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธ.ค.
แถลงการณ์ภายหลังการประชุมระบุว่า คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ส่วนในการประชุมเดือนธ.ค.นั้น จะเป็นเวลาที่เฟดจะทำการพิจารณาว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยเฟดจะประเมินความคืบหน้าทั้งที่เกิดขึ้นจริง และที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ต่อการบรรลุเป้าหมายของการจ้างงานที่ระดับสูงสุด และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2%
การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของเฟดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร KBW Nasdaq ทะยานขึ้น 3.5% ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 5.4%
หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 4.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้น 31% ในไตรมาส 3 จากยอดขาย iPhone ในจีนซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.112 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 8.47 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 1.42 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1.96 ดอลลาร์
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นกว่า 2.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม และหุ้นอาปาเช คอร์ป ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 4.3%
หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) พุ่งขึ้น 4.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปี
นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ในสหรัฐ โดยมาสเตอร์การ์ด อิงค์ และสตาร์บั๊ค จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประมาณการครั้งแรกจีดีพีช่วงไตรมาส 3/2558, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย., ข้อมูลรายได้-การบริโภคส่วนบุคคลเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน