ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 88.30 จุด หรือ 1.42% ที่ 6,135.22 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากหุ้นแองโกล อเมริกัน ที่รูดลงกว่า 12% หลังจากบริษัทระงับการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้าง ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนจะปรับลดจำนวนพนักงานลงด้วย
ส่วนหุ้นอื่นๆในกลุ่มเหมืองแร่ก็อ่อนแรงลง โดยหุ้นริโอ ทินโต ร่วงลง 8.4% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับลง 5.5%
หุ้นกลุ่มเหมืองปรับตัวย่ำแย่ในปีนี้ ตามราคาโลหะที่ร่วงลง และยังได้รับผลกระทบจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่มากเกินไป ประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอก็เป็นปัจจัยลบต่อตลาด โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนต.ค. แต่ยังคงส่งสัญญาณอ่อนแอ
ONS ระบุว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมขยับขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายปี แม้ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่ก็ยังอ่อนแอเกินกว่าที่จะส่งแรงหนุนต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4