ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,602.61 จุด พุ่งขึ้น 185.34 จุด หรือ +1.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,045.93 จุด เพิ่มขึ้น 44.82 จุด หรือ +0.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,064.29 จุด เพิ่มขึ้น 25.32 จุด หรือ +1.24%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับ 92.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนและเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 490,000 ยูนิต ส่วนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และบ่งชี้ว่ายอดขายบ้านมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดในปีนี้ นับตั้งแต่ปี 2007
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังานที่คำนวณใน S&P 500 ทะยานขึ้น 2.42% ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 3% ส่วนหุ้นเวสต์เซาเทิร์น เอนเนอร์จี ทะยานขึ้นกว่า 12%
การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 16% ทำสถิติปรับขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่หุ้นอัลโค พุ่งขึ้น 6.6%
หุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพยังคงปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง นำโดยหุ้นเทเน็ท เฮลธ์แคร์ พุ่งขึ้น 7.5% ขานรับข้อมูลคาดการณ์ที่ว่า จะมีชาวอเมริกันลงทะเบียนในโครงการ "โอบามาแคร์" เพิ่มขึ้นในปีหน้า โดยโอบามาแคร์เป็นโครงการตามกฎหมายประกันสุขภาพ Patient Protection and Affordable Care Act (PPACA) ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทยในวันนี้