ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,552.17 จุด ลดลง 50.44 จุด หรือ -0.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,048.49 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด หรือ +0.05% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,060.99 จุด ลดลง 3.30 จุด หรือ -0.16%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวอยู่นอกตลาดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้ วอลุ่มการซื้อขายมีอยู่เพียงบางเบา เนื่องจากตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันที่ 24 ธ.ค. เนื่องในวันคริสต์มาส อีฟ
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปิดร่วงลง 1.1% หุ้นเชฟรอน คอร์ป ดิ่งลง 1.9% ขณะที่หุ้นเดวอง เอนเนอร์จี และหุ้นวิลเลียม เอนเนอร์จี ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.5%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลง โดยหุ้นโค้ช ร่วงลง 1.9% และหุ้นฟอสซิล กรุ๊ป ดิ่งลง 2.4%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มค้าปลีกอ่อนแรงลงหลังจากเรดบุ๊ค รีเสิร์ช รายงานว่า ดัชนีค้าปลีกจอห์นสัน เรดบุ๊ค ซึ่งเป็นยอดขายของร้านค้าที่มีเครือข่ายทั่วประเทศในสหรัฐ ลดลง 0.7% ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนธ.ค. ซึ่งปรับตัวลดลงมากกว่าที่มีการคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.2%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 267,000 ราย และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 270,000 ราย นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ผลสำรวจในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ธ.ค.ของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) ระบุว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อตลาดหุ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 25 ธ.ค.นี้ เนื่องในวันคริสต์มาส *