ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 148.89 จุด หรือ 2.39% แตะที่ 6,093.43 จุด ทำสถิติปรับตัวลดลงสูงที่สุดในวันแรกของการซื้อขายนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2543 และทำสถิติปรับตัวลดลงสูงที่สุดในการซื้อขายในระหว่างวันในรอบ 3 เดือน
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกต่อการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินในเดือนธ.ค. ลดลงสู่ระดับ 48.2 จาก 48.6 ในเดือนพ.ย. โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวลง
การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนได้ฉุดตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกดิ่งลงด้วย นอกจากนี้ ยังทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของจีนตัดสินใจใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์ หลังจากที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลงรุนแรงถึง 7%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงอันเนื่องมาจากความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย โดยหุ้นบีพีลดลง 1.8% หุ้นรอยัลดัทช์เชลล์ลดลง 0.3%
หุ้นไชร์ลดลง 5.2% เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า บริษัทเภสัชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษใกล้ที่จะปิดธุรกรรมการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Baxalta Inc. ซึ่งเป็นคู่แข่งในสหรัฐ
หุ้นแรนโกลด์ รีซอร์สเซส พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน