ณ เวลา 19.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 108 จุด หรือ 0.64% สู่ระดับ 16,395 จุด
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ขยับขึ้นในวันนี้จากแรงซื้อเก็งกำไร หลังราคาร่วงลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีนี้
ณ เวลา 18.41 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.35% สู่ระดับ 31.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นในวันนี้ แต่ก็ยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยนักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันสหรัฐของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ในวันพรุ่งนี้
ราคาน้ำมันได้ดิ่งลงราว 16% ตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำมันล้นตลาด, การอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน, การทรุดตัวของตลาดหุ้น และทิศทางการแข็งค่าของดอลลาร์
รมว.น้ำมันของไนจีเรียกล่าวว่า สมาชิกหลายรายของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เรียกร้องให้มีการจัดประชุมฉุกเฉินขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำในขณะนี้
นักวิเคราะห์ของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดว่า ราคาน้ำมันมีโอกาสทรุดตัวลงแตะระดับ 10 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐในระยะนี้
นักวิเคราะห์คาดว่าการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐจะบ่งชี้ถึงภาวะถดถอย โดยจะรายงานกำไรที่ลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน นำโดยบริษัทกลุ่มพลังงาน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวปาฐกถาของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐหลายรายในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ หลังปรับขึ้นครั้งแรกรอบเกือบ 10 ปีในเดือนที่แล้ว