ณ เวลา 19.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าดิ่งลง 260 จุด หรือ 1.60% สู่ระดับ 16,024 จุด
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทหลายแห่งในวันนี้ รวมถึงซิตี้กรุ๊ป และแบล็คร็อค อิงค์ ขณะนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลกำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 จะปรับตัวลงราว 6.7% ในไตรมาส 4
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้เช่นกัน รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรุดตัวลงกว่า 5% หลุดระดับ 30 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยนักลงทุนวิตกต่อภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังอิหร่านเตรียมส่งออกน้ำมัน ขณะคาดมหาอำนาจอาจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในอีกไม่กี่วัน
ณ เวลา 18.32 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 1.63 ดอลลาร์ หรือ 5.22% สู่ระดับ 29.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI มีแนวโน้มปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ขององค์การสหประชาชาติ (UN) เตรียมประกาศรับรองในวันนี้ว่า อิหร่านได้ยุติโครงการนิวเคลียร์แล้วตามที่ได้ทำข้อตกลงกับชาติมหาอำนาจ ซึ่งจะเป็นการปูทางให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร และทำให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันในตลาดโลก
อิหร่านระบุว่าจะส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นราว 1 ล้านบาร์เรล/วันภายในเวลา 6 เดือนหลังจากมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 40 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
"ปัจจัยหลักสำหรับปีนี้จะเป็นการปรับเปลี่ยนด้านปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งอาจปรับสมดุลตลาด และสร้างภาวะตลาดกระทิงครั้งใหม่ ซึ่งเราจะเห็นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้" รายงานระบุ
ทางด้านนักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซ แบงก์ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันอาจดิ่งลงในระยะใกล้ จากการที่อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด หลังมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งจะทำให้ราคาร่วงลงแตะ 25 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่จะไม่ต่ำกว่านี้มากนัก
นอกจากนี้ คอมเมิร์ซ แบงก์ยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้ สู่ระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่คาดการณ์ที่ระดับ 63 ดอลลาร์