ณ เวลา 21.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) อยู่ที่ 16,047.76 จุด ดิ่งลง 344.98 จุด หรือ 2.11%
หุ้นทั้ง 30 ตัวที่ใช้คำนวณดัชนี DJIA ต่างปรับตัวลงในวันนี้
ดัชนี DJIA ปรับตัวลงเป็นเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน และมีแนวโน้มทำสถิติทรุดตัวลงในเดือนนี้มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2009
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรุดตัวลงกว่า 5% หลุดระดับ 30 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยนักลงทุนวิตกต่อภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังอิหร่านเตรียมส่งออกน้ำมัน ขณะคาดมหาอำนาจอาจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในอีกไม่กี่วัน
ณ เวลา 18.32 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 1.63 ดอลลาร์ หรือ 5.22% สู่ระดับ 29.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI มีแนวโน้มปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.4% ในเดือนธ.ค. โดยร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.2%
การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลงจากผลกระทบของราคาน้ำมันที่ดิ่งลง และสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่าปกติ ซึ่งฉุดการผลิตในภาคสาธารณูปโภคและภาคเหมืองแร่ของสหรัฐ
ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนธ.ค.ปรับตัวลงสู่ระดับ 76.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 76.8%
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการประเมินผลผลิตในภาคการผลิต ภาคสาธารณูปโภคและภาคเหมืองแร่ของสหรัฐ
นอกจากนี้ เฟดสาขานิวยอร์ครายงานวันนี้ว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ยังคงอยู่ในภาวะหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนม.ค.
การร่วงลงของดัชนีได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์, การลดการใช้จ่ายทุน และอุปสงค์โลกที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ ดัชนีดิ่งลงสู่ระดับ -19.4 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2009 จาก -6.2 ในเดือนธ.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ -4.0 ในเดือนม.ค.
ดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่า 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
ดัชนีย่อยด้านการจ้างงานร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค.2015 ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ สู่ระดับ 4.481 แสนล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.
ทั้งนี้ ผู้บริโภคชาวสหรัฐได้ลดการใช้จ่ายในสินค้าทั่วไป, เสื้อผ้า และน้ำมัน