ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน โดยข้อมูลล่าสุดเมื่อวานนี้ระบุว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในเดือนธ.ค.ลดลง 5.8% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 7.702 หมื่นล้านหยวน (1.223 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ โดยราคาหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลงอย่างหนักหลังจากทางบริษัทเปิดเผยว่ามีกำไร 1.6-1.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 เทียบกับ 3.3 พันล้านดอลลาร์สำหรับช่วงเดียวกันในปี 2014 โดยกำไรในไตรมาส 4 ของเชลล์ลดลงมากถึง 50% จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 7.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลผลิตแร่เหล็ก ขณะที่หุ้นเกลนคอร์ รีซอส ดิ่งลง 9.9%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ราคาบ้านเพิ่มขึ้น 2.3% ในยูโรโซน และ 3.1% ในสหภาพยุโรป (EU) ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้