ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 19,086.32 จุด เพิ่มขึ้น 33.87 จุด, +0.18% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 24,481.86 จุด ลดลง 10.53 จุด, -0.04%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ซึ่งมีการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกในตลาดเอเชีย ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์
เมื่อเวลา 11.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมค.ค. ปรับลง 32 เซนต์ สู่ระดับ 31.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์กันไว้ หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่แล้วเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006
ทั้งนี้ เฟดได้แสดงความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับภาวะผันผวนในตลาดการเงิน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี เฟดไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในเดือนมี.ค.
แถลงการณ์เฟดระบุว่า เฟดกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดต่อภาวะเศรษฐกิจโลก และตลาดการเงิน โดยกำลังทำการประเมินผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และอัตราเงินเฟ้อ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.หดตัวลง 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 2 และสะท้อนให้เห็นว่าอุปสงค์ของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นชะลอตัวลง รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน
หากเทียบเป็นรายเดือนพบว่า ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ของญี่ปุ่นลดลง 0.2% ขณะที่ยอดขายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่อยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบเป็นรายปี
ส่วนความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ในวันนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินมูลค่า 3.40 แสนล้านหยวนเข้าสู่ตลาดการเงินผ่านการดำเนินงานทางตลาดเงิน (open market operations) ในวันนี้ เพื่อป้องกันภาวะสภาพคล่องตึงตัวในช่วงวันหยุดยาว และเพื่อชดเชยกับกระแสเงินทุนที่สะพัดออกอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนก็ได้อัดฉีดเม็ดเงินไปแล้ว 4.4 แสนล้านหยวน