นอกจากนี้ การดีดตัวกลับขึ้นมาของราคาน้ำมัน ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดทะยานขึ้น
ณ เวลา 19.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 122 จุด หรือ 0.76% สู่ระดับ 16,081 จุด
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะแถลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ และต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้
นักวิเคราะห์คาดว่านางเยลเลนจะส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า หลังจากที่เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกรอบเกือบ 10 ปีในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ มีการคาดกันว่า ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ นางเยลเลนจะกล่าวยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความเสี่ยง ท่ามกลางความปั่นป่วนในตลาดการเงินในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลต่อปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
นายเครก เออร์แลม หัวหน้านักวิเคราะห์ของ OANDA ระบุว่า นักลงทุนจะจับตาคำแถลงของนางเยลเลนอย่างใกล้ชิด และตลาดจะปรับตัวอย่างอ่อนไหวต่อปัจจัยดังกล่าว
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ หลังร่วงลงเป็นเวลา 4 วัน โดยได้ปัจจัยบวกจากแนวโน้มที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจเจรจากับประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มเพื่อแก้วิกฤตราคาน้ำมันที่กำลังตกต่ำในช่วงนี้
ณ เวลา 18.35 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 2.40% สู่ระดับ 28.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
รัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านพร้อมที่จะเจรจากับซาอุดิอาระเบีย ขณะที่รัสเซียเสนอให้กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ถึงแม้ว่าเทรดเดอร์ และตัวแทนชาติอื่นๆของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่คาดว่าทางกลุ่มจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับประเทศนอกกลุ่มในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี แต่ข่าวดังกล่าวก็ถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด