ณ เวลา 19.21 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 76 จุด หรือ 0.46% สู่ระดับ 16,315 จุด
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 19.18 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 63 เซนต์ หรือ 2.05% สู่ระดับ 30.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 504.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 36,000 บาร์เรล สู่ระดับ 64.7 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.0 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 258.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2 แสนบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 162.4 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันพุ่งขึ้น 2.2% สู่ระดับ 88.3% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.3%
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างมากก่อนหน้านี้ จากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถร่วมมือกันผลักดันให้ราคาดีดตัวขึ้น ขณะที่รัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านประกาศว่าจะสนับสนุนความพยายามในการสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน ซึ่งรวมถึงการให้ความร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.25% เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคร่วงลง หลังจากบริษัทวอลมาร์ทปรับลดคาดการณ์ยอดขายในปีนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ลดแรงบวกในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาทางการสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย