ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 83.20 จุด หรือ 1.38% ที่ 6,096.01 จุด และตลอดสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวขึ้น 2.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง
ตลาดหุ้นลอนดอนวันศุกร์เดินหน้าขึ้นต่อเนื่องจากวันพฤหัสบดีที่ปิดพุ่งขึ้นถึงเกือบ 2.5% เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นบริษัทเหมืองแร่และพลังงาน หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ภาวะการซื้อขายยังได้แรงบวกจากหุ้นเบอร์เบอร์รี หลังได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุน
อย่างไรก็ตาม หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ หรืออาร์เอสบีร่วงลง ภายหลังธนาคารเผยว่าขาดทุนเป็นเงิน 1.98 พันล้านปอนด์ในปี 2558 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมาย 3.6 พันล้านปอนด์ นอกจากนี้ธนาคารยังอ้างถึงรายจ่ายจากการปรับโครงสร้างขนานใหญ่ ทั้งนี้ หากไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว อาร์บีเอสมีกำไร 4.4 พันล้านปอนด์ แต่ก็ยังลดลงจาก 6 พันล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า ส่งผลให้ธนาคารต้องงดจ่ายเงินปันผลไปอีกปี
หุ้นเกลนคอร์พุ่งขึ้น 7.95% เป็นแกนนำหุ้นบวก ตามด้วยสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ที่พุ่งขึ้น 7.85% เบอร์เบอร์รี กรุ๊ป 7.54% ลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป 6.95% แองโกล อเมริกัน 6.74% หุ้นบีพีบวก 1.24%
ส่วนหุ้นลบนำโดย รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ที่ร่วงลงถึง 7.13% หุ้นไอเอจี บริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ลบ 3.13% แม้กลุ่มบริษัทรายงานผลกำไรพุ่งขึ้นก็ตาม หุ้นโคคา-โคล่า เอชบีซี ลดลง 2.98% เซเว่น เทรนท์ ลดลง 1.30% และเมอร์ลิน เอนเตอร์เทนเมนท์ ลบ 0.97%