ณ เวลา 21.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 16,829.33 จุด ลดลง 34.59 จุด หรือ 0.22%
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคอ่อนตัวลง แต่กลุ่มการเงินดีดตัวสวนทางตลาด
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงเกือบ 2% ในวันนี้ หลังสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานสต็อกน้ำมันสหรัฐสูงกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อภาวะน้ำมันล้นตลาด
ณ เวลา 19.33 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 68 เซนต์ หรือ 1.98% สู่ระดับ 33.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ API รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 9.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล
รายงานดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตลาด แม้มีข่าวว่า ทางการรัสเซียระบุว่า ใกล้มีการบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการจำกัดการผลิตน้ำมัน ขณะที่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นในการประชุมในเดือนนี้
ผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 214,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ADP ได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.สู่ระดับ 193,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 9,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในรอบ 5 ปี ส่วนภาคการเงินมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 8,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2015
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ