ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.7% ปิดที่ 340.97 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,424.89 จุด เพิ่มขึ้น 18.05 จุด หรือ +0.41% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,776.62 จุด เพิ่มขึ้น 59.46 จุด หรือ +0.61% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,147.06 จุด ลดลง 5.82 จุด หรือ -0.09%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่นั้น อาร์เซลอร์มิททัล และหุ้นแองโกล อเมริกัน ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 6.7% หุ้นริโอทินโต ปรับขึ้น 2.3% และหุ้นอันโตฟากัสตา พุ่งขึ้น 4%
ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคาร หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นยูบีเอส กรุ๊ป ปรับขึ้น 3.2%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดตัวขึ้น 0.3% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 214,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมเดือนนี้