ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มโรงแรมร่วงลง ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.2% แตะที่ 340.30 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,431.97 จุด เพิ่มขึ้น 4.17 จุด หรือ +0.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,990.00 จุด เพิ่มขึ้น 41.36 จุด หรือ +0.42% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,192.74 จุด เพิ่มขึ้น 8.16 จุด หรือ +0.13%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุวินาศกรรมในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สนามบินซาเวนเทมและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายซาเลห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยที่เป็นแกนนำก่อเหตุโจมตีกลางกรุงปารีสในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยเขาถูกรวบตัวที่กรุงบรัสเซลส์
ด้านกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์โจมตีในครั้งนี้ โดยระบุว่านักรบของ IS ได้ระเบิดตัวเองด้วยการจุดชนวนระเบิดบนเข็มขัดพลีชีพ และยังได้ทำการระเบิดพลีชีพในสถานีรถไฟใต้ดินเช่นกัน
หุ้นกลุ่มสายบินและกลุ่มโรงแรมร่วงลงเนื่องจากเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล โฮเทล กรุ๊ป ดิ่งลงกว่า 3.3% หุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ร่วงลง 4% หุ้น Accor SA ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่ในฝรั่งเศส ดิ่งลง 3.9% หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดท แอร์ไลน์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้บริหารสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ปรับตัวลง 1.5% หุ้นไรอันแอร์ ร่วงลง 2.2% และหุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ปรับตัวลง 1.3%