ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ และมีแนวโน้มร่วงลงในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แรกในรอบ 6 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งได้แก่ ราคาน้ำมันที่ดิ่งลง, การแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจเกิดขึ้นในเดือนหน้า
ณ เวลา 20.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,420.99 จุด ลบ 81.50 จุด หรือ 0.47%
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ตามมาด้วยหุ้นกลุ่มการเงิน
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวัน Good Friday ในเทศกาลอีสเตอร์
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์ หลุยส์ กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
คำกล่าวของประธานเฟดสาขาเซนต์ หลุยส์ สะท้อนคำพูดของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า ซึ่งส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรุดตัวลงต่ำกว่า 39 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
ณ เวลา 19.09 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 90 เซนต์ หรือ 2.26% สู่ระดับ 38.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากจะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ยังคงได้รับแรงหนุนให้อยู่ในกรอบบนของช่วง 112 เยน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด