ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) โดยการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนกำลังจับตาผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 17 เม.ย. ซึ่งมีเป้าหมายที่จะหารือกันเพื่อจำกัดเพดานการผลิต หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกทรุดตัวลง
ดัชนี Stoxx 600 ขยับขึ้น 0.3% ปิดที่ 343.99 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,511.51 จุด เพิ่มขึ้น 21.20 จุด หรือ +0.47% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 10,093.65 จุด เพิ่มขึ้น 67.55 จุด หรือ +0.67% และ -ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,365.10 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด หรือ +0.03%
ตลาดหุ้นยุโรปมีการซื้อขายอย่างซบเซา หลังนักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มราคาน้ำมัน แม้สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้ทำข้อตกลงจำกัดการผลิตน้ำมันดิบ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้จัดการประชุมร่วมกัน โดยการทำข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกจะประชุมร่วมกันที่กาตาร์
นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า ถึงแม้การประชุมระหว่างกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 17 เม.ย.จะสามารถบรรลุข้อตกลงตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน แต่สิ่งนี้จะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อปริมาณน้ำมันในตลาดโลก และตลาดจะยังคงไม่เข้าสู่ภาวะสมดุลด้านอุปสงค์และอุปทานจนกว่าจะถึงปี 2017
หุ้นเนสท์เล่ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% หลังยอดขายเติบโตดีกว่าคาด ส่วนหุ้นยูนิลิเวอร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% หลังยอดขายปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน