ดาวโจนส์บวกวันนี้ หุ้นพลังงานหนุนตลาด ขณะรอประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 26, 2016 20:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนบวกในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,010.39 จุด เพิ่มขึ้น 32.43 จุด หรือ 0.17%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันที่ดีดตัว ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อสารอ่อนตัวลง

นอกจากนี้ วอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นโบอิ้ง และดูปองท์

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ โดยได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และคาดการณ์ที่ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้นในปีนี้

ณ เวลา 20.24 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.62% สู่ระดับ 43.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันทะยานขึ้นเกือบ 14% ในเดือนนี้ ทำให้มีแนวโน้มที่เดือนเม.ย.จะเป็นเดือนที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี

นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 26-27 เม.ย.นี้ พร้อมกับแถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อดูทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมสัปดาห์นี้ หลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

บริษัทพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาดในไตรมาสเดือนม.ค.-มี.ค. ซึ่งเป็นไตรมาสที่ 3 ในปีงบการเงินของบริษัท หลังจากที่มียอดขายลดลงติดต่อกัน 7 ไตรมาส

พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล รายงานว่า บริษัทมีกำไรสุทธิพุ่งแตะระดับ 2.75 พันล้านดอลลาร์ หรือ 97 เซนต์/หุ้นในไตรมาสดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.15 พันล้านดอลลาร์ หรือ 75 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้ปัจจัยหนุนจากการปรับลดค่าใช้จ่าย และการปรับขึ้นราคาสินค้า แม้ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมีกำไร 82 เซนต์/หุ้น และมีรายได้ 1.581 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสดังกล่าว

บริษัทแคนนอน อิงค์ประกาศปรับลดคาดการณ์ยอดขายและกำไรในปีนี้ โดยระบุถึงผลกระทบจากการแข็งค่าของเยน และภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและประเทศตลาดเกิดใหม่

ทั้งนี้ แคนนอนคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิลดลง 9.2% ในปีนี้ สู่ระดับ 2 แสนล้านเยน (1.8 พันล้านดอลลาร์) ขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทลดลง 15.5% สู่ระดับ 3 แสนล้านเยน ส่วนยอดขายลดลง 5.3% สู่ระดับ 3.6 ล้านล้านเยน

ก่อนหน้านี้ แคนนอนคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิที่ระดับ 2.3 แสนล้านเยนในปีนี้ ขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 3.6 แสนล้านเยน ส่วนยอดขายอยู่ที่ระดับ 3.85 ล้านล้านเยน

ในไตรมาสแรก แคนนอนมีกำไรสุทธิลดลง 17.5% สู่ระดับ 2.799 หมื่นล้านเยน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทดิ่งลง 39.4% สู่ระดับ 4.009 หมื่นล้านเยน ส่วนยอดขายลดลง 7.0% สู่ระดับ 7.9723 แสนล้านเยน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ