ตลาดหุ้นลอนดอนปิดแดนลบเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) หลังหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ และหุ้นไอเอจี บริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ถูกเทขายอย่างหนัก ขณะเดียวกันนักลงทุนไม่ผลีผลามเข้าลงทุน เนื่องจากยังคงรอประเมินผลกระทบของมติที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ไม่ขยายมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ซึ่งสร้างความผิดหวังและสวนทางกับการคาดการณ์ของตลาด
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 80.51 จุด หรือ 1.27% แตะที่ 6,241.89 จุด และลดลง 1.1% ในรอบสัปดาห์ อย่างไรก็ดี สำหรับเดือนเม.ย. ดัชนีหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ร่วงลงหนักสุดในการซื้อขายวันสุดท้ายของเดือน และก่อนวันหยุดธนาคารในวันจันทร์ โดยปิดลดลง 6% หลังจากเผยผลประกอบการที่ขาดทุนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในไตรมาสแรกปีนี้
ด้านหุ้นไอเอจีร่วง 4.7% หลังกลุ่มบริษัทสายการบินเผยว่ากำลังชะลอแผนการเติบโต หลังพิจารณาว่าความต้องการเดินทางซบเซาลง อันเป็นผลมาจากเหตุก่อการร้ายในเบลเยียม นอกจากนี้ บริษัทยังเผยด้วยกว่า ความต้องการสำหรับที่นั่งชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งของสายการบินยังอ่อนแรงลงด้วย
หุ้นเรสเตอรองต์ กรุ๊ป ดิ่งหนักกว่า 25% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรทั้งปี
สำหรับหุ้นบวก นำโดยเกลนคอร์ที่พุ่งขึ้น 4.12% หุ้นแรนโกลด์ รีซอร์สเซส บวก 3.75% หุ้นบีที กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 2.06% หุ้นอันโตฟากัสตา เพิ่มขึ้น 1.93% หุ้นแองโกล อเมริกัน บวก 1.35%