ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในยุโรป ซึ่งรวมถึงเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษอ่อนแรงลง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.7% ปิดที่ 335.56 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,371.98 จุด ลดลง 70.77 จุด หรือ -1.59% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,926.77 จุด ลดลง 196.50 จุด หรือ -1.94% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,185.59 จุด ลดลง 56.30 จุด หรือ -0.90%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากผลสำรวจองมาร์กิตระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 49.2 ร่วงลงจากระดับ 50.7 ในเดือนมี.ค. โดยหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวแตะ 51.2
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ โดยเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ธนาคารรายใหญ่ของยุโรป เปิดเผยว่า กำไรก่อนหักภาษีในไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 5.4 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้ว
ขณะที่สายการบินลุฟท์ฮันซา เปิดเผยอดขาดทุนก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีในไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 53 ล้านยูโร (61 ล้านดอลลาร์) และรายได้ปรับตัวลดลง 0.8% สู่ระดับ 6.9 พันล้านยูโร
ด้านธนาคารยูบีเอส รายงานว่า กำไรสุทธิในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 707 ล้านฟรังก์สวิส (741 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 64% จาก 1.98 พันล้านฟรังก์ในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว
หุ้นดอยช์ ลุฟท์ฮันซา ดิ่งลง 5.1% หุ้นธนาคารยูบีเอส ร่วงลง 7.5% ส่วนหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ร่วงลง 3.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรจากการดำเนินงานปรับตัวลดลง
นักลงทุนจับตาดูการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.ของหลายประเทศในยุโรปในวันนี้ รวมถึงอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ และกลุ่มอียู