ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนบวกในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
ณ เวลา 20.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,775.39 จุด เพิ่มขึ้น 65.09 จุด หรือ 0.36% หลังดิ่งกว่า 200 จุดวานนี้
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดิ่งลงสวนทางตลาดวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทะยานขึ้นในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน โดยได้ปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่บ่งชี้ภาวะตึงตัวของอุปทาน ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 20.40 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 1.43% สู่ระดับ 46.89 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งแตะ 46.92 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
IEA ระบุในรายงานภาวะตลาดน้ำมันว่า ภาวะอุปสงค์และอุปทานบ่งชี้ว่าตลาดน้ำมันโลกกำลังปรับตัวไปสู่ระดับดุลยภาพ ขณะที่ปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดจะหดตัวลงในปีนี้
IEA ระบุว่า ถึงแม้ปริมาณน้ำมันจากโอเปกเพิ่มสูงขึ้น แต่การผลิตที่ลดลงของประเทศนอกกลุ่มโอเปก และอุปสงคน้ำมันที่เพิ่มขึ้น จะช่วยให้การเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะทำให้อุปสงค์, อุปทาน และราคาน้ำมันกลับสู่ภาวะมีเสถียรภาพ
ขณะเดียวกัน EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 3.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 540 ล้านบาร์เรล
ข้อมูลสต็อกน้ำมันดังกล่าวสวนทางกับสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ที่รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.45 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 543.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ การที่บริษัทรอยัล ดัชท์ เชลล์ประกาศปิดท่อส่งน้ำมันในไนจีเรีย และสถานการณ์ไฟป่าในแคนาดา ก็ได้เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันเช่นกัน