ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นเทสโก้ รวมทั้งรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 1 ปี โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยบรรเทาปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,138.50 จุด เพิ่มขึ้น 34.31 จุด หรือ +0.56%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทสโก้ที่พุ่งขึ้น 3.89% ซึ่งปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นบลูชิพ
ขณะที่หุ้นเฟรสนิลโล พุ่งขึ้น 3.72% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ดีดขึ้น 3.35% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับขึ้น 1.92%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐและการพุ่งขึ้นของหุ้นเทสโก้สามารถสกัดปัจจัยลบจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ สู่ระดับ 2.0% จากเดิมที่ 2.2% ส่วนในปี 2017 ได้ปรับลดคาดการณ์ลงสู่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.4% และในปี 2018 ปรับลดลงสู่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.5%