ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (EU) หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า การส่งออกและนำเข้าของยูโรโซนปรับตัวลดลงในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.01 จุด ปิดที่ 334.72 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,297.57 จุด ลดลง 14.71 จุด หรือ -0.34% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,890.19 จุด ลดลง 62.71 จุด หรือ -0.63% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,167.77 จุด เพิ่มขึ้น 16.37 จุด หรือ +0.27%
ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากยูโรสแตทระบุว่า การส่งออกของยูโรโซนในเดือนมี.ค.อยู่ที่ 1.778 แสนล้านยูโร (2.013 แสนล้านดอลลาร์) โดยลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนการนำเข้าของยูโรโซนดิ่งลง 8% สู่ระดับ 1.492 แสนล้านยูโร
ยูโรสแตทระบุว่า ยูโรโซนมีตัวเลขเกินดุลการค้า 2.86 หมื่นล้านยูโรในเดือนมี.ค. เทียบกับระดับ 1.99 หมื่นล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
เมื่อพิจารณาทั้งไตรมาส 1 การส่งออกของยูโรโซนลดลง 1% สู่ระดับ 4.858 แสนล้านยูโร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าลดลง 3% สู่ระดับ 4.320 แสนล้านยูโร
หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง นำโดยหุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ ออโตโมบิลส์ ดิ่งลง 6.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของบีเอ็นพี พาริบาส์ ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นเกลนคอร์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2%