ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ยูโรโซนยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์ หลังจากโฟล์คสวาเกนเปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่ในไตรมาสแรก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับลง 0.8% ปิดที่ 347.45 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,505.62 จุด ลดลง 23.78 จุด หรือ -0.53% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,262.74 จุด ลดลง 70.49 จุด หรือ -0.68% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,230.79 จุด ลดลง 40.00 จุด หรือ -0.64%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า เงินเฟ้อเบื้องต้นในกลุ่มยูโรโซนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -0.1% ในเดือนพ.ค. จากระดับ -0.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายูโรโซนยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืด
หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลงและได้ฉุดตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงด้วย หลังจากบริษัทโฟล์คสวาเกนเปิดเผยกำไรในไตรมาส 1/2559 ร่วงลง 20% โดยหุ้นโฟล์คสวาเกน ดิ่งลง 2.6% หุ้นเปอร์โยต์ร่วงลง 1% แต่หุ้น BMW ขยับขึ้น 0.2%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐรวมถึงการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐที่พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2009 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7%
ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐซึ่งสำรวจโดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.2%