ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ภายหลังจากที่ธนาคารกลางโลกได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงในปีนี้ รวมทั้งจีนซึ่งได้เปิดเผยข้อมูลส่งออกเดือนพ.ค.ที่ร่วงลง
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 27,085.24 จุด เพิ่มขึ้น 75.57 จุด, +0.28% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,257.75 จุด ลดลง 70.49 จุด, -0.33% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,654.54 จุด ลดลง 6.08 จุด, -0.37%
ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ เนื่องจากการค้าและการลงทุนชะลอตัวลง
ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงาน "Global Economic Prospects" โดยระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลกจะขยายตัว 2.4% ในปีนี้ ซึ่งลดลง 0.5% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเผยแพร่ในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานศุลกากรของจีนรายงานว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนพ.ค.ร่วงลง 4.1% เทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.81 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ปรับตัวลง 1.8% ในเดือนก่อนหน้า
ส่วนยอดนำเข้าปรับตัวลง 0.4% เทียบรายปี สู่ระดับ 1.31 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 19 อันเนื่องมาจากการชะลอตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และอุปสงค์ที่อ่อนแอลง
กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าสินค้า 6.971 แสนล้านเยนในเดือนเม.ย. จากที่ขาดดุล 1.320 แสนล้านเยนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่งออกร่วงลง 10.4% จากปีก่อน สู่ระดับ 5.60 ล้านล้านเยน และนำเข้าหดตัว 23.1% มาอยู่ที่ 4.91 ล้านล้านเยน
สำหรับยอดส่งออกที่ลดลงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการส่งออกยานยนต์ที่ลดลง อันเนื่องมาจากผลกระทบของแผ่นดินไหวในจังหวัดคุมาโมโตะ ขณะที่ยอดนำเข้าที่ลดลงนั้น เป็นผลมาจากมูลค่าการนำเข้าพลังงานที่ลดลง โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบร่วงลงจากปีที่แล้วถึง 51.8% หลังราคาน้ำมันเฉลี่ยลดลง 34.3% สู่ระดับ 36.96 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนเม.ย. ส่วนราคานำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ร่วง 44.5%