ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ที่ร่วง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 341.25 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,405.61 จุด ลดลง 43.12 จุด หรือ -0.97% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,088.87 จุด ลดลง 128.16 จุด หรือ -1.25% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,231.89 จุด ลดลง 69.63 จุด หรือ -1.10%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI และ น้ำมันดิบเบรนท์ที่ร่วงลงกว่า 1% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลงด้วย โดยหุ้นเนสเต คอร์ป ดิ่งลง 1.3% หุ้นโททาล ร่วงลง 1.2% หุ้นเรพซอล ร่วงลง 2.2% ส่วนหุ้นทีจีเอส-โนเปค จีโอฟิสิคอล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการบ่อน้ำมันรายงาน ดิ่งลง 3.7%
สำหรับข่าวความเคลื่อนไหวในตลาดการเงินของยุโรปนั้น นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆของยุโรปดำเนินการมากขึ้น เพื่อทำให้เศรษฐกิจมีประสิทธิภาพในการแข่งขันมากขึ้น และมีการสร้างงานเพิ่มขึ้น
นายดรากีกล่าวว่า ยูโรโซนไม่สามารถพึ่งพาความพยายามของ ECB เพียงอย่างเดียวได้ โดยรัฐบาลต่างๆต้องมีการดำเนินการมากขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า การปฏิรูปโครงสร้างอาจจะดำเนินการได้ยากในแง่การเมือง แต่มีความสำคัญในการกระตุ้นการขยายตัว และลดการว่างงาน