ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลุดจากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า และอังกฤษจะจัดการลงทุนประชามติเพื่อตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ ในวันที่ 23 มิ.ย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.4% ปิดที่ 332.92 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,306.72 จุด ลดลง 98.89 จุด หรือ -2.24% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,834.62 จุด ร่วงลง 254.25 จุด หรือ -2.52% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,115.76 จุด ร่วงลง 116.13 จุด หรือ-1.86%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ชาวอังกฤษอาจจะลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยอังกฤษจะจัดการลงประชามติในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
ผลการสำรวจผ่านระบบออนไลน์ของ ICM ในช่วงวันที่ 3 มิ.ย.-5 มิ.ย. แสดงว่า ผู้ลงคะแนนที่สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวออกจาก EU หรือ Brexit มีจำนวนมากกว่าผู้ที่คัดค้านการถอนตัวออกจาก EU ที่ระดับ 48% ต่อ 43%
ด้านนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า การถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รุนแรง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางอังกฤษ
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นดอยช์แบงก์ ดิ่งลง 4.7% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วงลง 3.4% หุ้นยูนิเครดิต ร่วงลง 6.4%
หุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ดิ่งลง 5.6% หลังจากนายซีโมน เมนเน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินประกาศลาออกจากตำแหน่ง หุ้นเปอร์โยต์ ซีตรอง ปรับตัวลง 1.6% ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมือนรายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 3.8%