ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากอังกฤษแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) โดยอังกฤษจะจัดการลงประชามติเพื่อตัดสินว่าจะออกจาก EU หรือไม่ ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.8% ปิดที่ 326.80 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,227.02 จุด ลดลง 79.70 จุด หรือ -1.85% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,657.44 จุด ร่วงลง 177.18 จุด หรือ -1.80% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,044.97 จุด ลดลง 70.79 จุด หรือ -1.16%
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการลงประชามติของอังกฤษในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ เนื่องจากหากผลโหวตบ่งชี้ว่าอังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป ก็จะเกิดแรงเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้น
ผลการสำรวจของสำนักต่างๆพบว่า ชาวอังกฤษที่มีความเห็นสนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะนี้มีจำนวนมากกว่าผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษยังคงอยู่ในยุโรป
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ YouGov ระบุว่า ผู้ที่ต้องการให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (EU) มีจำนวน 43% ขณะที่ฝ่ายที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 42% ส่วนผลการสำรวจออนไลน์ของหนังสือพิมพ์ อินดิเพนเดนท์ ระบุว่า ผู้ที่เชื่อว่าอังกฤษควรออกจาก EU มีจำนวน 55% ขณะที่ผู้ที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 45%
หุ้น G4S ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยของอังกฤษ ร่วงลง 5% หลังจาก G4S นายโอมาร์ มาทีน มือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงไนท์คลับในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 50 คนนั้น เป็นพนักงานของบริษัทมานับตั้งแต่เดือนกันยายน 2550 โดยทางบริษัทพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับ FBI เพื่อดำเนินการสืบสวน
หุ้นโนเกีย ดีดตัวขึ้น 1.5% หลังจากบริษัททำข้อตกลงมูลค่า 1.36 พันล้านยูโรเพื่อจัดหาอุปกรณ์คลาวด์เน็ทเวิร์กให้กับบริษัทไชน่า โมบาย