ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ (13 ม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น หากอังกฤษแยกตัวออกจากสภาพยุโรป (EU)
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 70.79 จุด หรือ 1.16% แตะที่ 6,044.97 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนซื้อขายอย่างผันผวน หลังผลโพลล์บ่งชี้ว่า ฝ่ายที่สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวออกจาก EU มีคะแนนนำฝ่ายที่สนับสนุนให้ยังอยู่ใน EU
ผลสำรวจของ YouGov ระบุว่า ผู้ที่ต้องการให้อังกฤษออกจาก EU มีจำนวน 43% ขณะที่ฝ่ายที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 42% ส่วนผลการสำรวจออนไลน์ของหนังสือพิมพ์ อินดิเพนเดนท์ ระบุว่า ผู้ที่เชื่อว่าอังกฤษควรออกจาก EU มีจำนวน 55% ขณะที่ผู้ที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 45%
หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วงลง 4.2% หลังจากบริษัทโซซิเอเต เจเนอราล เอสเอ ระบุว่า การแยกตัวออกจาก EU ของอังกฤษ หรือ Brexit ส่งผลให้หุ้นของบริษัทขาดความน่าสนใจ
หุ้น G4S ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยของอังกฤษ ร่วงลง 5% หลังจาก G4S นายโอมาร์ มาทีน มือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงไนท์คลับในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 50 คนนั้น เป็นพนักงานของบริษัทมานับตั้งแต่เดือนกันยายน 2550 โดยทางบริษัทพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับ FBI เพื่อดำเนินการสืบสวน
หุ้นอินมาร์แซทดีดตัวขึ้น 1% หลังจากบริษัทลงนามในสัญญาพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับบริษัท SpeedCast International