ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงในวันนี้ โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของราคาน้ำมัน และความวิตกเกี่ยวกับการลงประชามติในสหราชอาณาจักรกรณีแยกตัวจากสหภาพยุโรป (EU)
ณ เวลา 20.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,525.77 จุด ลดลง 117.44 จุด หรือ 0.67%
หุ้นกลุ่มพลังงาน และการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น
ณ เวลา 20.59 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 2.27% สู่ระดับ 46.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เมื่อวานนี้ว่า การลงประชามติในสหราชอาณาจักรกรณีถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เฟดตัดสินใจคงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งล่าสุดนี้
"ประเด็นการลงประชามติในอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้คณะกรรมการเฟดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ โดยการตัดสินใจของอังกฤษในครั้งนี้จะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงินทั่วโลก" ประธานเฟดกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุเตือนว่า หากชาวอังกฤษตัดสินใจแยกตัวจากสหภาพยุโรปในการลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย. สิ่งนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่ปอนด์จะทรุดตัวลงอย่างหนัก
ผลการสำรวจในขณะนี้พบว่า ผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป มีจำนวนมากกว่าผู้ที่ต้องการอยู่ในสหภาพยุโรป แม้จะมีคำเตือนจากนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ, BoE และอีกหลายองค์กรเกี่ยวกับผลกระทบที่จะตามมา หากอังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
BoE ระบุว่า การลงประชามติดังกล่าวนับเป็นความเสี่ยงในระยะใกล้ที่ใหญ่ที่สุดต่อตลาดการเงินอังกฤษ และตลาดโลก
นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินทั้ง 9 คนของ BoE ยังได้หารือกันเกี่ยวกับการจัดเตรียมแผนฉุกเฉินรับมือในช่วงการทำประชามติ ซึ่งรวมถึงการกำกับธนาคารต่างๆเพื่อให้มั่นใจว่ามีสภาพคล่องที่เพียงพอ