ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ม.ย.) หลังผลโพลล์บ่งชี้ว่า อังกฤษอาจจะยังคงเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป (EU) ต่อไป
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 182.91 จุด หรือ 3.04% แตะที่ 6,204.00 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนขานรับปัจจัยหนุนจากผลสำรวจที่ระบุว่า ชาวอังกฤษที่สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่ในสหภาพยุโรป (EU) ต่อไปนั้น มีมากกว่าผู้ที่สนับสนุนให้แยกตัวออกจาก EU โดยผลสำรวจดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับกรณี Brexit ก่อนที่การลงประชามติจะมีขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
ผลสำรวจที่จัดทำขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์โดยยูกอฟ (YouGov) บริษัทจัดทำผลสำรวจความคิดเห็นชั้นนำ เผยให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 44% สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่กับ EU ต่อไป ขณะที่ 43% สนับสนุนให้ออกจาก EU
ขณะเดียวกันผลสำรวจความคิดเห็นโดยหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ เดอะ เมล์ ที่จัดทำขึ้นในวันศุกร์และวันเสาร์นั้น พบว่า 45% สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่ใน EU ต่อไป และ 42% สนับสนุนให้ออกจาก EU
โพลล์จากทั้งสองสำนักมีขึ้นก่อนหน้าที่การลงประชามติจะเปิดฉากในวันพฤหัสบดี และมีขึ้นหลังการฆาตกรรมนางโจ ค็อกซ์ ส.ส.พรรคแรงงาน ซึ่งสนับสนุนไม่ให้สหราชอาณาจักรแยกตัวจาก EU
เดอะ เมล์ เผยในหนังสือพิมพ์ฉบับวันอาทิตย์ว่า โพลล์ล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายสนับสนุนการแยกตัวมีคะแนนหายไป 3% นับตั้งแต่เกิดเหตุฆาตกรรมส.ส.ฝ่านค้านเมื่อวันพฤหัสบดี
หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินนำตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยหุ้นฮาร์กรีฟส์ แลนส์ดาวน์ หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ กรุ๊ป ที่ต่างก็พุ่งขึ้นมากกว่า 7%
หุ้นแรนโกลด์ รีซอร์สเซส ลดลง 1.4% หลังจากที่ราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.เมื่อวันก่อน