ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของยุโรปต่อจากนี้ หลังสหราชอาณาจักรลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 7.03% ปิดที่ 321.98 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,557.16 จุด ลดลง 699.87 จุด หรือ -6.82% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,106.73 จุด ลดลง 359.17 จุด หรือ -8.04% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,138.69 จุด ลดลง 199.41 จุด หรือ -3.15%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ หลังจากผลการนับคะแนนการลงประชามติของสหราชอาณาจักร สะท้อนว่า ฝ่ายสนับสนุนให้ออกจากสหภาพยุโรป (EU) ชนะฝ่ายที่ต้องการอยู่ใน EU
ขณะที่นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออก หลังจากผลการลงประชามติออกมา
ธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศความพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นทุกด้าน เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินภายในประเทศหลังจากนี้
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ แถลงว่า อันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "AAA" ไม่สอดคล้องกับอังกฤษอีกต่อไป หลังจากที่มีการลงประชามติแยกตัวจาก EU
กระทรวงต่างประเทศเยอรมนีเปิดเผยว่า เยอรมนีเตรียมจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของชาติผู้ก่อตั้ง EU ในวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะหารือในประเด็นการเมืองใน EU หลังจากที่สหราชอาณาจักรได้ออกมติแยกตัวออกจาก EU
ทั้งนี้ ประเทศที่เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปมีทั้งสิ้น 6 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อิตาลี เบลเยียม และลักเซมเบิร์ก
หุ้นจูเลียสแบร์ร่วง 9% หลังจากระบุว่า ความปั่นป่วนจาก Brexit อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทชั่วคราว หุ้นเทเลโฟนิกา ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารรายใหญ่ของสเปน ร่วง 16% หลังบริษัทประกาศเลื่อนการนำหุ้นเสนอขายต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทในเครือออกไปก่อน เนื่องจากตลาดมีความผันผวน