ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนตระหนกต่อการที่สหราชอาณาจักรลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,400.75 จุด ร่วงลง 610.32 จุด หรือ -3.39% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,707.98 จุด ลดลง 202.06 จุด หรือ -4.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,037.41 จุด ลดลง 75.91 จุด หรือ -3.59%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงหนักตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากผลการนับคะแนนการลงประชามติของสหราชอาณาจักร สะท้อนว่า ฝ่ายสนับสนุนให้ออกจากสหภาพยุโรป (EU) ชนะฝ่ายที่ต้องการอยู่ใน EU
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศเยอรมนีเปิดเผยว่า เยอรมนีได้จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของชาติผู้ก่อตั้ง EU เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะหารือในประเด็นการเมืองใน EU หลังจากที่สหราชอาณาจักรได้ออกมติแยกตัวออกจาก EU ซึ่งที่ประชุมได้แสดงความกังวลว่า ประเทศสมาชิก EU รายอื่นๆอาจจะได้รับอิทธิพลจากผลการลงประชามติของอังกฤษ
ทั้งนี้ ประเทศที่เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปมีทั้งสิ้น 6 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อิตาลี เบลเยียม และลักเซมเบิร์ก
ด้านนางนิโคล่า สเตอร์เจียน ซึ่งเป็นผู้นำและมุขมนตรีของสก็อตแลนด์ กล่าวว่า มีแนวโน้มสูงที่สก็อตแลนด์จะจัดทำประชามติครั้งใหม่เพื่อตัดสินว่าจะอยู่ในสหราชอาณาจักรหรือไม่ หลังจากที่ผลการนับคะแนนการลงประชามติในสหราชอาณาจักรพบว่าอังกฤษต้องการที่จะแยกตัวออกจาก EU ขณะที่สก็อตแลนด์ลงประชามติให้อยู่ใน EU ต่อไป
ในส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลงมากกว่าคาดในเดือนพ.ค. โดยร่วงลง 2.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนเม.ย.
หุ้นธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วง 9.4% ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และโกลด์แมน แซคส์ ต่างร่วงลงกว่า 6.9%
หุ้นผู้ผลิตรถยนต์ปรับตัวลงอย่างหนักเช่นกัน โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปรับตัวลง 6.6% หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ลดลง 4.9%