ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางชั้นนำของโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับผลกระทบจากปัจจัย Brexit
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3.1% ปิดที่ 326.49 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,195.32 จุด พุ่งขึ้น 106.47 จุด หรือ +2.60% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,612.27 จุด เพิ่มขึ้น 164.99 จุด หรือ +1.75% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,360.06 จุด เพิ่มขึ้น 219.67 จุด หรือ +3.58%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่อังกฤษลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ธนาคารกลางชั้นนำของโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับผลกระทบจากปัจจัย Brexit
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เฟดพร้อมที่จะอัดฉีดดอลลาร์เพื่อเสริมสภาพคล่องในตลาด หลังจากอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นและธนาคารกลางญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการทุกๆด้านเพื่อจำกัดผลกระทบของ Brexit
ส่วนในที่ประชุมผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวานนี้ บรรดาผู้นำต่างก็แสดงความมุ่งมั่นที่จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยจะรักษาจำนวน 27 ชาติสมาชิกไว้ หลังอังกฤษลงประชามติออกจาก EU เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หุ้นกลุ่มธุรกิจเดินทางปรับตัวขึ้น โดยหุ้นโธมัส คุ๊ก พุ่งขึ้น 4.3% และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดท แอร์ไลนส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ปรับขึ้น 2.8%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ พุ่งขึ้น 3% หุ้นบาร์เคลย์ส ทะยานขึ้น 4.9% หุ้นบังโค ซานตานเดร์ พุ่งขึ้น 3.5%