ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) โดยตลาดปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษได้ออกมาส่งสัญญาณใช้มาตรการรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่อังกฤษลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1% ปิดที่ 329.88 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,237.48 จุด เพิ่มขึ้น 42.16 จุด หรือ +1.00% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,680.09 จุด เพิ่มขึ้น 67.82 จุด หรือ +0.71% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,504.33 จุด เพิ่มขึ้น 144.27 จุด หรือ +2.27%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากมีรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรปกำลังพิจารณาเรื่องการผ่อนคลายกฎข้อบังคับในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายที่จะบรรเทาผลกระทบที่เกิดจาก Brexit
นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้ออกมาส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน โดยนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นหลังจากอังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรปนั้น ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษมีแนวโน้มที่จะต้องออกมาตรการกระตุ้นทางการเงินในฤดูร้อนนี้ โดยธนาคารกลางอังกฤษจะประเมินสถานการณ์ในการประชุมวันที่ 14 ก.ค.นี้ และจะมีการหารือเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือทางการเงินในการประชุมเดือนส.ค.
ทั้งนี้ การส่งสัญญาณดังกล่าวของนายคาร์นีย์บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับ 0.5% ในขณะนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หรืออาจอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการเงิน
หุ้น Anheuser-Busch InBev พุ่งขึ้น 2.8% หลังจากรัฐบาลแอฟริกาใต้อนุมัติข้อเสนอของ Anheuser-Busch InBev ที่จะเทคโอเวอร์บริษัท SABMiller PLC SAB คิดเป็นมูลค่า 1.08 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวผันผวน หลังจากฟิทช์ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่ระดับ "AA" จากระดับ "AA+"
ทั้งนี้ หุ้นบาร์เคลย์ส์ ดีดตัวขึ้น 0.5% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วงลง 2.6% หุ้นดอยช์แบงก์ ดิ่งลง 1.4% และหุ้นธนาคารบังโค ซานตานเดร์ ร่วงลง 2.%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหภาพยุโรป (EU) สู่ระดับ AA จากเดิมที่ AA+ อันเนื่องมาจากผลกระทบของ Brexit