ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 134.29 จุด รับ BoE ส่งสัญญาณลดดบ.เดือนหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 15, 2016 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,506.41 จุด พุ่งขึ้น 134.29 จุด หรือ +0.73% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,034.06 จุด เพิ่มขึ้น 28.33 จุด หรือ +0.57% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,163.75 จุด เพิ่มขึ้น 11.32 จุด หรือ +0.53%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส ที่เปิดเผยกำไรไตรมาส 2 มูลค่า 1.55 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ที่ระดับ 1.43 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่รายได้ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 2.52 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.42 หมื่นล้านดอลลาร์

ตลาดยังได้รับแรงบวกหลังจากแถลงการณ์การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เมื่อวานนี้ระบุว่า BoE มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายในการประชุมเดือนหน้า หลังจากที่ BoE ทำการประเมินผลกระทบที่เศรษฐกิจอังกฤษได้รับจากการที่สหราชอาณาจักรลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

"ขณะที่ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ภาวะย่ำแย่ลงระหว่างปัจจัยสนับสนุนการขยายตัว และการดีดตัวของเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่ของ MPC จึงคาดว่าจะทำการผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมเดือนส.ค." BoE ระบุ

ส่วนในการประชุมเมื่อวานนี้ BoE ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และได้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3.75 แสนล้านปอนด์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมัน WTI ที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ระดับ 254,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งใกล้กับระดับ 248,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 43 ปีที่ทำไว้ในกลางเดือนเม.ย.

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2015 โดยดีดตัวขึ้นตามราคาพลังงานและภาคบริการ

หุ้นไลน์ คอร์ป ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ ปิดตลาดพุ่งขึ้น 26.6% ที่ระดับ 41.58 ดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กวันแรกเมื่อคืนนี้ โดยในระหว่างวันนั้น ราคาหุ้นไลน์เคลื่อนไหวที่ระดับ 42 ดอลลาร์/หุ้น พุ่งขึ้น 30% จากราคาเสนอขายต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) และจากมูลค่าหุ้นดังกล่าวส่งผลให้บริษัทไลน์มีมูลค่าสูงกว่า 9 พันล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการของเจพีมอร์แกน เชส โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับขึ้น 1.6% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ทะยานขึ้น 2.6% ส่วนหุ้นเจพีมอร์แกน ปรับขึ้น 1.5%

หุ้นเดลต้า แอร์ไลนส์ พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นยัม แบรนด์ส พุ่งขึ้น 3% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย., ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมิ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ