ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) สร้างความประหลาดใจต่อตลาดเมื่อวานนี้ ด้วยการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 15.93 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 6,654.47 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงหลัง BoE ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยคะแนนเสียง 8-1 ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
นอกจากนี้ BoE ยังได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ในการคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3.75 แสนล้านปอนด์
การประชุมนโยบายการเงินเมื่อคืนนี้ เป็นการประชุมครั้งแรกของ BoE หลังการลงประชามติในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.เพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินสกุลปอนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3323 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.3162 ดอลลาร์/ปอนด์ หลัง BoE ประกาศมติการตัดสินใจ
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นบาร์เคย์สเพิ่มขึ้น 2% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ เพิ่มขึ้น 2.5% และหุ้นลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.6%
ส่วนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าหรูหราปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ร่วงลง 2.3% หุ้นเรคคิทท์ เบนไคเซอร์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Clearasil และ Calgon ลดลง 1.6% และหุ้นดิอาจีโอ ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปรับตัวลดลง 1.3%