ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลงในวันนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะอ่อนตัวลงในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 20.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 41 จุด หรือ 0.22% สู่ระดับ 18,490 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ระดับ 254,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งใกล้กับระดับ 248,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 43 ปีที่ทำไว้ในกลางเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 265,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 71 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 5,750 ราย สู่ระดับ 259,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องมีจำนวนเพิ่มขึ้น 32,000 ราย สู่ระดับ 2.15 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ค.
ทางด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของ ECB หลังจากที่สหราชอาณาจักรจัดทำประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB
นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน