ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนบวกในวันนี้ แต่ร่วงลงในเวลาต่อมา โดยถูกหุ้นกลุ่มพลังงานฉุดลงสู่แดนลบ
ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,481.72 จุด ลดลง 10.77 จุด หรือ 0.05%
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงมากกว่า 1% ในวันนี้ จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
ณ เวลา 20.18 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 51 เซนต์ หรือ 1.18% สู่ระดับ 42.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ในการซื้อขายก่อนหน้านี้
การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก), ภาวะเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันกลั่น และการขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสหรัฐ ต่างก็เป็นปัจจัยฉุดราคาน้ำมันในระยะนี้ จากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันล้นตลาด
บริษัทจดทะเบียนเผยผลประกอบการที่ไร้ทิศทางในวันนี้
บริษัทแคเทอร์พิลลาร์รายงานตัวเลขกำไร และรายได้ประจำไตรมาส 2 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวันนี้
ทั้งนี้ แคเทอร์พิลลาร์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 1.09 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.96 ดอลลาร์
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.01 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทแมคโดนัลด์ รายงานตัวเลขกำไรประจำไตรมาส 2 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวันนี้ ขณะที่ยอดขายเป็นไปตามคาด
ทั้งนี้ แมคโดนัลด์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 1.25 ดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.39 ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทมียอดขายที่ระดับ 6.27 หมื่นล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์
เวอไรซอน คอมมิวนิเคชั่น รายงานตัวเลขกำไรในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่รายได้ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ เวอไรซอนเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 94 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 92 เซนต์
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 3.053 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 3.094 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้