ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากธนาคารหลายแห่งของยุโรปเปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่ ซึ่งรวมถึงดอยช์แบงก์ และเครดิต สวิส ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ในภาคธนาคารในวันนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะแสดงสถานะความแข็งแกร่งทางการเงินโดยทั่วไปของธนาคารในยูโรโซน
ดัชนี Stoxx Europe 600 SXXP ร่วงลง 1% ปิดที่ 339.47 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,420.58 จุด ลดลง 26.38 จุด หรือ -0.59% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,274.93 จุด ลดลง 44.62 จุด หรือ -0.43% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,721.06 จุด ลดลง 29.37 จุด หรือ -0.44%
หุ้นกลุ่มธนาคารถูกเทขายอย่างหนัก โดยหุ้นดอยช์ แบงก์ ร่วงลง 4.3% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 2 ทรุดฮวบลง 98% แตะระดับ 20 ล้านยูโร (21.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
หุ้นเครดิต สวิส ดิ่งลง 5% หลังจากธาคารเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 170 ล้านฟรังก์สวิส (172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 84% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายทิดเจน ไทม์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเครดิต สวิส กล่าวว่า ทางธนาคารยังไม่ได้รับผลกระทบจากการที่อังกฤษลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แต่ธนาคารก็พร้อมที่จะปรับตัว หากมีผลกระทบเกิดขึ้น
หุ้นเชลล์ร่วงลง 2.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ดิ่งลง 93% สู่ระดับ 239 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่หุ้นโททาล ปรับตัวลง 0.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิ 2.09 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ร่วงลง 30% โดยบริษัทพลังงานทั้งสองแห่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ
นักลงทุนจับตาธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ในภาคธนาคารในวันนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะแสดงสถานะความแข็งแกร่งทางการเงินโดยทั่วไปของธนาคารในยูโรโซน ขณะที่คาดว่าธนาคารบางแห่งในอิตาลีจะถูกระบุว่าอยู่ในภาวะขาดแคลนเงินทุน