ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ และจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับเพิ่มวงเงิน QE
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,352.05 จุด ลดลง 2.95 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,166.25 จุด เพิ่มขึ้น 6.51 จุด หรือ +0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,164.25 จุด เพิ่มขึ้น 0.46 จุด หรือ +0.02%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 269,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 265,000 ราย ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 1.5% ในเดือนมิ.ย. โดยปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ NASDAQ ปิดในแดนบวก เนื่องจากภาวะการซื้อขายในระหว่างวันได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี
นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ประกาศฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 6 หมื่นล้านปอนด์ โดยการเพิ่มวงเงิน QE อีก 6 หมื่นล้านปอนด์ในการประชุมครั้งนี้ จะส่งผลให้วงเงินรวมในโครงการอยู่ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์
หุ้นเคลล็อก ผู้ผลิตซีเรียลรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และยังได้ปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้
หุ้นทรานส์โอเชียน หนึ่งในบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นเทสลา มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ปรับตัวขึ้น 2.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดสั่งจองรถยนต์ที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น โดยหุ้นเฟซบุ๊กปรับตัวขึ้น 1.5% ขณะที่หุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นอินเทล ขยับขึ้นกว่า 0.7%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค., ยอดส่งออก นำเข้า และดุลการค้าเดือนมิ.ย. และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนก.ค.
สำหรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ซึ่งเป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วโลกนั้น ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย.