ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วันเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) หลังข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 47.27 จุด หรือ 0.68% แตะที่ 6,893.92 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินสกุลปอนด์ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยวานนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2014
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายปี
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากการแสดงความเห็นของนายสก็อต คอร์เฟ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจของอังกฤษ ที่ระบุว่า การทรุดตัวของค่าเงินปอนด์นับตั้งแต่ที่อังกฤษทำประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าพุ่งขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า และผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อทะยานขึ้นสูงกว่า 2.5% ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ กรุ๊ป และหุ้นอีซีเจ็ท ต่างก็ร่วงลงมากกว่า 2% และมีสัดส่วนสูงสุดในการฉุดดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้
หุ้นอันโตฟากัสตาพุ่งขึ้น 8.7% หลังรายงานว่า บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีปริมาณผลผลิตทองแดงเพิ่มขึ้น