ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 343.53 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,438.22 จุด ลดลง 19.27 จุด หรือ -0.43% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,592.69 จุด ลดลง 64.95 จุด หรือ -0.61% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,781.51 จุด ลดลง 39.28 จุด, -0.58%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์และน้ำมัน WTI ที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์พุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ร่วงลง 3.7% หุ้น Neste Corp ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของฟินแลนด์ ดิ่งลง 2.4% หุ้น Galp Energia ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของโปรตุเกส ร่วงลง 1.3% หุ้น Subsea 7 SA ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของนอร์เวย์ ปรับตัวลง 0.9%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของ ECB โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเบื้องต้นเดือนส.ค.ทรงตัวที่ 0.2%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง